6681 Views |
เครื่องกำเนิดไฟฟ้าพิกัดกำลังพร้อมใช้ จะใช้ในกรณีที่พื้นที่นั้นๆไม่มีไฟฟ้า หรือห่างไกลแหล่งพลังงานไฟฟ้า เช่น การใช้เป็นแหล่งกำเนิดไฟฟ้าหลักของตึก หรือ คอนเสิร์ตกลางแจ้ง ที่มักจะอยู่ในพื้นที่ห่างไกลชุมชนเพราะต้องระวังเรื่องเสียงไม่ให้รบกวนชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น ซึ่งสถานที่เหล่านั้นส่วนมากมักจะไม่มีไฟฟ้า ทำให้จำเป็นอย่างมากที่ต้องใช้เครื่องปั่นไฟแบบพิกัดกำลังพร้อมใช้ เพราะว่าเหมาะกับการโหลดที่ต่อเนื่องและการโหลดใช้ไฟฟ้าของอุปกรณ์ที่หลากหลาย
เครื่องกำเนิดไฟฟ้าพิกัดกำลังพร้อมใช้ ไม่ควรใช้งานที่โหลดต่ำกว่า 50% เนื่องจากเครื่องยนต์จะไม่สามารถเผาไหม้ได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งจะทำให้เกิดเขม่าในท่อไอเสีย และลดประสิทธิภาพของเครื่องปั่นไฟจนทำให้เครื่องปั่นไฟเสียหายได้นั่นเอง
หากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าใช้งานที่โหลดต่ำกว่า 50% เป็นระยะเวลานาน ควรที่จะทำการโหลดเทียม หรือ Load Bank เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าว่าสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้จริง ตามสเปคเครื่องหรือไม่
คือพิกัดกำลังไฟฟ้าที่จะจ่ายไฟฟ้าให้เพื่อทดแทนกำลังไฟฟ้าหลัก ในกรณีไฟฟ้าหลักดับ หรือขัดข้อง และไม่สามารถจ่ายกำลังไฟฟ้าเกินกว่าพิกัดสูงสุด ใช้งานได้ปีละไม่เกิน 200 ชั่วโมง โดยทั่วไปแล้ว Standby Power จะมีพิกัดกำลังที่สูงกว่า Prime Power 10%
จุดประสงค์ของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพิกัดฉุกเฉิน คือการสำรองไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์สำคัญ ในกรณีที่ไฟฟ้าหลักขัดข้องในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 1 - 12 ชั่วโมง โดยส่วนมากมักจะติดตั้งคู่กับระบบจ่ายไฟอัตโนมัติ ATS (Automatic Transfer Switch) ซึ่งจะทำให้เครื่องปั่นไฟทำงานเพื่อกระแสไฟฟ้าหลักถูกตัด และหยุดทำงานเมื่อกระแสไฟฟ้าหลักกลับมาใช้งานได้ตามปกตินั่นเอง
ปัจจุบันความต้องการของเครื่องปั่นไฟเพื่อการสำรองไฟฟ้ายามฉุกเฉินเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากการขยายตัวของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม เราจะเห็นได้ว่าสภาพอากาศที่แปลปรวน พายุ หรือภัยพิบัติต่าง มักจำทำให้เกิดไฟฟ้าขัดข้อง และก่อให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องจักร หรือภาคธุรกิจที่จำเป็นต้องใช้งานไฟฟ้าตลอดเวลาเพื่อมอนิเตอร์กิจการ หรือแม้กระทั่งโรงพยาบาลเองที่ต้องการไฟฟ้าเพื่อใช้งานกับอุปกรณ์การแพทย์ต่างๆ จากตัวอย่างสถานการณ์ที่ได้กล่าวมาข้างต้น แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพิกัดสำรองฉุกเฉินนั่นเอง