5978 จำนวนผู้เข้าชม |
คือ พิกัดกำลังไฟฟ้าสูงสุดที่เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสามารถจ่ายโหลดไฟได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่จำกัดเวลา แต่การใช้งานของโหลดจะต้องไม่เกิน 70% ของพิกัดกำลังไฟฟ้าทั้งหมด
ตัวอย่างเช่น เครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาด 100 kVA แม้ว่าเครื่องปั่นไฟจะมีพิกัดกำลังไฟอยู่ที่ 100 kVA แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถจ่ายโหลดได้เต็ม 100 kVA เพราะว่ามันจะทำให้เครื่องยนต์โอเวอร์โหลดได้
เครื่องกำเนิดไฟฟ้าพิกัดกำลังพร้อมใช้ จะใช้ในกรณีที่พื้นที่นั้นๆไม่มีไฟฟ้า หรือห่างไกลแหล่งพลังงานไฟฟ้า เช่น การใช้เป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้าหลักของตึก หรือ คอนเสิร์ตกลางแจ้ง ที่มักจะอยู่ในพื้นที่ห่างไกลชุมชนเพราะต้องระวังเรื่องเสียงไม่ให้รบกวนชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น ซึ่งสถานที่เหล่านั้นส่วนมากมักจะไม่มีไฟฟ้า ทำให้จำเป็นอย่างมากที่ต้องใช้เครื่องปั่นไฟแบบพิกัดกำลังพร้อมใช้ เพราะว่าเหมาะกับการโหลดที่ต่อเนื่องและการโหลดใช้ไฟฟ้าของอุปกรณ์ที่หลากหลาย
เครื่องกำเนิดไฟฟ้าพิกัดกำลังพร้อมใช้ ไม่ควรใช้งานที่โหลดต่ำกว่า 50% เนื่องจากเครื่องยนต์จะไม่สามารถเผาไหม้ได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งจะทำให้เกิดเขม่าในท่อไอเสีย และลดประสิทธิภาพของเครื่องปั่นไฟจนทำให้เครื่องปั่นไฟเสียหายได้นั่นเอง
หากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าใช้งานที่โหลดต่ำกว่า 50% เป็นระยะเวลานาน ควรที่จะทำการโหลดเทียม หรือ Load Bank เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าว่าสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้จริงตามสเปคเครื่องหรือไม่
คือพิกัดกำลังไฟฟ้าที่จะจ่ายไฟฟ้าให้เพื่อทดแทนกำลังไฟฟ้าหลัก ในกรณีไฟฟ้าหลักดับ หรือขัดข้องและไม่สามารถจ่ายกำลังไฟฟ้าเกินกว่าพิกัดสูงสุดได้ โดยการใช้งานจะต้องไม่เกิน 200 ชั่วโมง/ปี โดยทั่วไปแล้ว Standby Power จะมีพิกัดกำลังที่สูงกว่า Prime Power อยู่ 10%
จุดประสงค์ของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพิกัดฉุกเฉิน คือการสำรองไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์สำคัญ ในกรณีที่ไฟฟ้าหลักขัดข้องในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 1 - 12 ชั่วโมง โดยส่วนมากมักจะติดตั้งคู่กับระบบจ่ายไฟอัตโนมัติ ATS (Automatic Transfer Switch) ซึ่งจะทำให้เครื่องปั่นไฟทำงานเมื่อกระแสไฟฟ้าหลักถูกตัด และหยุดทำงานเมื่อกระแสไฟฟ้าหลักกลับมาใช้งานได้ตามปกตินั่นเอง